วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัน "คริสต์มาส"

 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัน "คริสต์มาส"


                เสียงเพลง Jingle Bells และ Last Christmas ถูกเปิดในห้างสรรพสินค้าและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เป็นสัญญาณว่า "วันคริสต์มาส" ใกล้เข้ามาถึงแล้ว แม้เทศกาลนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมตะวันตก แต่ก็มีอิทธิพลด้านการท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทั่วโลก กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่ผู้คนต่างออกมาเฉลิมฉลอง เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าเทศกาลนี้มีที่มาอย่างไร ไขข้อสงสัยได้จาก 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวันคริสต์มาสกันเลย

1. ความหมายของคำว่า "คริสต์มาส"

วันคริสต์มาส (Christmas) คือ วันที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ซึ่งเป็นศาสดาสูงสุดของศาสนาคริสต์ ถือเป็นวันหยุดประจำปีที่ชาวคริสต์ให้ความสำคัญมาก ทั้งนี้ "Christmas" แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า" โดยมีรากศัพท์มาจากคำว่า Christes Maesse เนื่องจากวันคริสต์มาสเป็นวันที่คริสต์ศาสนิกชนนิยมทำพิธีมิสซา 

2. ประวัติความเป็นมาของวันคริสต์มาส

แม้วันคริสต์มาสจะจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู แต่ในคัมภีร์ไบเบิ้ลก็ไม่ได้มีการบันทึกว่าตรงกับวันที่เท่าไร โดยชาวคริสต์เชื่อว่าพระเยซูประสูติ ณ เมืองเบธเลเฮม แคว้นจูเดีย ในสมัยจักรพรรดิออกัสตัสแห่งกรุงโรม ต่อมาใน ค.ศ.274 จักรพรรดิออเรเลียน (Emperor Aurelian) ทรงกำหนดให้วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันเฉลิมฉลองเหล่าสุริยเทพของชาวโรมัน แต่ชาวคริสต์ในอาณาจักรโรมันถือว่าพระเยซูคือผู้ทรงอยู่เหนือความตาย และเป็นศาสดาสูงสุดที่พวกเขานับถือ จึงเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซูในวันดังกล่าวแทน การบันทึกว่า วันคริสต์มาสที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการมีขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.336 นับจากนั้นเป็นต้นมา วันคริสต์มาส จึงตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี 

7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "วันคริสต์มาส" ทำไมตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี

3. วันคริสต์มาสอีฟ คือวันอะไร?

วันคริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve) ตรงกับวันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี หรือก่อนวันคริสต์มาสเพียง 1 วัน เนื่องจากในธรรมเนียมชาวคริสต์ วันคริสต์มาสจะเริ่มต้นขึ้นในตอนเย็นของวันคริสต์มาสอีฟ เด็กๆ จะนำถุงเท้ามาแขวนไว้หน้าเตาผิงเพื่อรอของขวัญจากซานตาคลอส ส่วนในรุ่งเช้าซึ่งเป็นวันคริสต์มาสที่สมาชิกครอบครัวจะอยู่กันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ทำกิจกรรมและรับประทานอาหารค่ำมื้อพิเศษร่วมกัน ซึ่งเมนูอาหารที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ ไก่งวง และเครื่องดื่มประเภทต่างๆ

4. ประวัติซานตาคลอส ชายแก่ใจดีที่เด็กทั่วโลกรอคอย

ภาพชายแก่ร่างอ้วน สวมชุดสีแดง หนวดเคราสีขาว มาพร้อมรถลากเลื่อนและกวางเรนเดียร์จมูกแดง หรือที่เรียกกันว่า "ซานตาคลอส" กลายเป็นอีกหนึ่งภาพจำของวันคริสต์มาส ซึ่งจริงๆ แล้วซานตาคลอสได้ต้นแบบมาจาก "นักบุญนิโคลัส" บาทหลวงชาวตุรกี ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็นชายที่มีจิตใจดี ต่อมาชาวฮอลแลนด์เรียกนักบุญผู้นี้ว่า "ซินเตอร์คลาส" และชาวอเมริกันเรียกเพี้ยนเป็น "ซานตาคลอส" ซึ่งนิยมเรียกกันทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน

มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยที่นักบุญนิโคลัสยังมีชีวิต เขาเคยปีนปล่องไฟเพื่อมอบเหรียญเงินเป็นของขวัญให้แก่บ้านเด็กหญิงที่ยากจน ทว่าเหรียญเงินนั้นกลับตกลงไปในถุงเท้าที่แขวนไว้หน้าเตาผิง จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กๆ ต่างพากันแขวนถุงเท้าไว้หน้าเตาผิงเพื่อรอของขวัญจากซานตาคลอสในวันคริสต์มาส กลายเป็นตำนานที่มาของซานตาคลอส และการแขวนถุงเท้านั่นเอง

รู้หรือไม่ว่า เดิมทีภาพของ "ซานตาคลอส" ไม่ได้เป็นชายสวมชุดสีแดงอย่างที่เข้าใจกัน แต่ในราว ค.ศ.1930 บริษัท Coca-Cola ได้วาดภาพโฆษณาเกี่ยวกับซานตาคลอสและวันคริสต์มาส โดยให้สวมชุดสีแดงเหมือนสีของแบรนด์ จึงกลายเป็นที่มาของภาพจำว่าซานตาคลอสคือชายแก่ที่สวมชุดสีแดง

7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "วันคริสต์มาส" ทำไมตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี

5. ต้นคริสต์มาส คือต้นอะไรกันแน่?

สัญลักษณ์ที่จะขาดไม่ได้เลยในวันที่ 25 ธันวาคม ก็คือ "ต้นคริสต์มาส" ซึ่งทำมาจากต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาได้ง่ายในทวีปยุโรปและอเมริกา นิยมประดับประดาด้วยกล่องของขวัญและถุงเท้า พร้อมทั้งติดไฟสีสันสวยงาม ทว่าจริงๆ แล้วชาวคริสต์ในสมัยโบราณต่างเชื่อว่าต้นคริสต์มาสคือ ต้นไม้ในสวนสวรรค์ที่อดัมและเอวาหยิบผลไปกิน

ปัจจุบันมีการนำต้นไม้ประเภทต่างๆ มาตกแต่งเป็นต้นคริสต์มาส เช่น ต้นฮอลลี ซึ่งมีใบสีเขียวลักษณะคล้ายหนามและมีผลสีแดงสด สื่อความหมายถึง มงกุฎหนามและหยดเลือดของพระเยซู นอกจากนี้ยังมีต้น Poinsettia ที่หลายคนเรียกว่าต้นคริสต์มาส มีใบสีแดงสดสวยงาม โดยมีประวัติความเป็นมาว่า เด็กหญิงฐานะยากจนคนหนึ่งอยากจะมอบของขวัญให้พระแม่มารี แต่ไม่มีเงินซื้อของขวัญ นางฟ้าจึงปรากฏกายขึ้นและมอบเมล็ดพืชให้เธอ เมื่อนำไปปลูกก็กลายเป็นต้น Poinsettia ทำให้ถูกเรียกว่า ต้นคริสต์มาส นั่นเอง 

7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "วันคริสต์มาส" ทำไมตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี

6. กิจกรรมในเทศกาลคริสต์มาส 2564

เทศกาลคริสต์มาสถือเป็นเทศกาลที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข มีการจัดงานเฉลิมฉลอง ประดับต้นคริสต์มาสตามสถานที่ต่างๆ และจัดแสดงแสง สี เสียง อย่างสวยงาม สมัยก่อนชาวโรมันนิยมมอบของขวัญที่มีค่าให้แก่กัน เช่น อาหาร ขนม และทองคำ ในขณะที่ชาวยุโรปมักบริจาคทาน มอบของขวัญ และของใช้ให้แก่คนไร้บ้าน ในปัจจุบันถือเป็นวันที่ครอบครัวจะได้กลับมาฉลองร่วมกัน มีการมอบของขวัญ ส่งการ์ดอวยพร ทำขนมอบ และรับประทานอาหารมื้อค่ำ ส่วนเด็กๆ จะรวมตัวกันร้องเพลงตามบ้านและโบสถ์ อีกทั้งนิยมนำถุงเท้ามาแขวนไว้หน้าเตาผิงเพื่อรอของขวัญจากซานตาคลอส (ซึ่งก็คือพ่อแม่ของพวกเขา) หน้าห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็จัดไฟต้นคริสต์มาส รองรับนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูป

7. คำอวยพรยอดนิยมในวันคริสต์มาส

คำอวยพรที่เรามักได้ยินกันคือ "Merry Christmas" แปลว่า "สันติสุข" บางครั้งก็นิยมพูดว่า "Merry Xmas" เนื่องจากตัวอักษร X ในภาษากรีก เป็นตัวอักษรตัวแรกของคำว่า "Χριστός" ที่หมายถึง "คริสต์" นอกจากนี้ก็ยังมีคำอวยพรอื่นๆ ที่นิยมมอบให้แก่กันในวันคริสต์มาส เช่น

  • Happy Christmas - สุขสันต์วันคริสต์มาส
  • Merry Christmas and a Happy New Year - สุขสันต์วันคริสต์มาสและสวัสดีปีใหม่
  • Wishing you a prosperous New Year - ขอให้เป็นปีใหม่ที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง
  • May Santa Claus bring everything you wished for. Merry Christmas - ขอให้ซานตาคลอสนำทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณปรารถนามามอบให้ สุขสันต์วันคริสต์มาส
  • Praying you have a wonderful Christmas filled with moments you’ll always remember. - ขอให้วันคริสต์มาสที่ยอดเยี่ยมนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยช่วงเวลาดีๆ ที่คุณจะจดจำตลอดไป

จะเห็นได้ว่าทุกเทศกาลสำคัญมักมีที่มาและความสำคัญที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และวิถีชีวิต "วันคริสต์มาส" ก็เป็นอีกเทศกาลที่มีความเป็นมาที่น่าสนใจ และผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ...สุขสันต์วันคริสต์มาส! 

อ้างอิง : https://www.thairath.co.th/lifestyle/culture/1997256

เค้กอินทผลัมเพื่อสุขภาพ

   เค้กอินทผลัม

             อินทผลัม หรืออินทผาลัม ที่เราคุ้นเคยกันเนี่ย ไม่ใช่แค่เป็นผลไม้อบแห้งอร่อย ๆ ที่เอาไว้กินเล่นเพลิน ๆ เท่านั้นนะคะ ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย ทั้งช่วยบำรุงกำลังในขณะที่รู้สึกอ่อนเพลีย หมดแรง บำรุงประสาทตา ลดระดับน้ำตาลในเลือด มีไฟเบอร์สูง ช่วยลดอาการท้องผูก มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่อาจก่อมะเร็งในช่องท้องได้ และยังมีสรรพคุณดี ๆ อีกมากมาย 


สูตรเค้กอินทผาลัม เบเกอรี่หวานหอม จากผลไม้อบแห้งมากประโยชน์

          และที่พิเศษไปกว่านั้น อินทผลัม ยังนำมาทำเป็นเค้กอร่อย ๆ ในตระกูลฟรุตเค้กได้อีกด้วย วันนี้ กระปุกดอทคอม ก็หยิบยกสูตรขนมอย่างเค้กอินทผลัม น่ากิน ๆ จาก คุณเนินน้ำ อาหารบ้าน ๆ ที่บ้านเนินน้ำ มาฝากให้ได้ลองทำกินกัน เผื่อใครที่ไม่ชอบกินอินทผลัมแบบเป็นผลไม้ ก็ลองมาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย

ส่วนผสม เค้กอินทผลัม

      ► อินทผลัม สับเป็นชิ้นเล็ก 180 กรัม
      ► น้ำเปล่า 1 ถ้วย
      ► เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
      ► แป้งเค้ก 180 กรัม
      ► ผงฟู 1/2 ช้อนชา
      ► เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
      ► ไข่ไก่ 2 ฟอง
      ► เนยสดจืด 100 กรัม
      ► น้ำตาลทราย 130 กรัม (จากสูตร 150 กรัม) 
      ► น้ำตาลไอซิ่ง เล็กน้อย (สำหรับทำไอซิ่งเกลซ)

วิธีทำเค้กอินทผลัม

สูตรเค้กอินทผาลัม เบเกอรี่หวานหอม จากผลไม้อบแห้งมากประโยชน์

          1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด ใส่อินทผลัมสับลงต้มประมาณ 3 นาที ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ให้พออุ่น แล้วใส่เบกกิ้งโซดา คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้

สูตรเค้กอินทผาลัม เบเกอรี่หวานหอม จากผลไม้อบแห้งมากประโยชน์

          2. ร่อนแป้ง ผงฟู และเกลือป่น เข้าด้วยกัน เตรียมไว้

สูตรเค้กอินทผาลัม เบเกอรี่หวานหอม จากผลไม้อบแห้งมากประโยชน์

          3. ตีเนยสดให้อ่อนตัว ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายทีละน้อย ตีด้วยความเร็วปานกลางจนขึ้นฟูและสีอ่อน

สูตรเค้กอินทผาลัม เบเกอรี่หวานหอม จากผลไม้อบแห้งมากประโยชน์

          4. ตีไข่พอแตก ค่อย ๆ เทใส่ลงในส่วนผสมเนย ตีต่อด้วยความเร็วสูงสุดจนส่วนผสมเข้ากันดี ใส่แป้งที่ร่อนไว้ ตีด้วยความเร็วต่ำให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นใส่อินทผลัมลงไปผสมให้เข้ากัน ให้เนื้ออินทผลัมกระจายตัว ไม่นอนก้น

สูตรเค้กอินทผาลัม เบเกอรี่หวานหอม จากผลไม้อบแห้งมากประโยชน์

          5. ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ เข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ระยะเวลาในการอบขึ้นอยู่กับขนาดของพิมพ์ และเตาอบของแต่ละบ้าน อบจนสุก นำออกจากเตา พักไว้จนเย็น

สูตรเค้กอินทผาลัม เบเกอรี่หวานหอม จากผลไม้อบแห้งมากประโยชน์

สูตรเค้กอินทผาลัม เบเกอรี่หวานหอม จากผลไม้อบแห้งมากประโยชน์

          6. แต่งหน้าด้วยอินทผลัมสับและไอซิ่งเกลซ รอจนน้ำตาลไอซิ่งเซตตัว (เก็บไว้ข้ามคืน เค้กจะนุ่มชุ่มฉ่ำกว่าเดิมค่ะ)

          ใครที่ชอบกินเค้กอินทผลัมหน้าตาน่ากินแบบนี้ ก็รีบ ๆ มาจดสูตรและวิธีทำเค้กอินทผลัมสูตรเด็ดนี้ไปลองทำกันดูนะคะ แล้วจะติดใจ


อ้างอิง : http://cooking.kapook.com/view93889.html

คู่มือการยกระดับฝีมือในการเล่นเกมยอดนิยม จากผู้เชี่ยวชาญ (PES MOBILE2021) กระทู้ข่าว

          คู่มือ      eFootball Pro Evolution Soccer 2021 (eFootball PES 2021) เป็นเวอร์ชันอัปเดตประจำฤดูกาลของ eFootball PES 2020 ซึ่งพัฒนา...